ประชุม Audit กรณี OP OPAE OPLG ปี65

0 0
Read Time:45 Second

ประชุมแนวทางในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ กรณี OP OPAE OPLG ปีงบประมาณ 2565 วันที่ 14 มกราคม 2565

  • แนวทางการจัดเตรียมเวชระเบียนเพื่อรับการตรวจสอบ
  • ประเด็นที่พบจากการส่งเวชระเบียนเพื่อตรวจสอบไม่ครบ
    โดย นางสาวรุ่งจิต ลีลางามวงศา ตำแหน่ง นักวิชาการฝ่ายตรวจสอบการจ่ายชดเชยฯ
  • แนวทางการตรวจสอบหลักฐานการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขกรณี OPD
  • ประเด็นหน่วยบริการการเบิกจ่ายไม่ถูกต้องที่พบจากการตรวจสอบ
  • ประเด็นปัญหาที่พบจากการอุทธรณ์ผลการตรวจสอบของหน่วยบริการ
    โดย นายแพทย์ปริญญา ชมวงษ์ ตำแหน่ง ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ
    นางสาวรุ่งจิต สีลางามวงศา ตำแหน่ง นักวิชาการฝ่ายตรวจสอบการจ่ายชดเชยฯ

แนวทางการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขร่วม ๓ กองทุน

กรณีผู้ป่วยนอก

ประเด็นสำคัญในการตรวจสอบเวชระเบียน ผป.นอก
1.หลักฐานประกอบการตรวจสอบเวชระเบียน
2.แนวทางการตรวจเอกสารหลักฐาน
3.แนวทางการขออุทธรณ์

Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
1 50 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
1 50 %

แนวทางการบันทึกข้อมูลเบิกค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในกรณี การเบิกค่ายากลับบ้าน

0 0
Read Time:37 Second

แนวทางการบันทึกข้อมูลเบิกค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในกรณี การเบิกค่ายากลับบ้านแยกต่างหาก จากค่ารักษาผู้ป่วยในระบบ DRGs ตามประกาศกรมบัญชีกลาง ว1202 (2 ธ.ค. 64)

แนวทางการบันทึกข้อมูลนี้ เป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับการเบิกค่ารักษาพยาบาล ตามประกาศ ของกรมบัญชีกลางเรื่องหลักกณฑ์การเบิเงินค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยในตามเกณฑ์กลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) ที่กำหนดให้การเบิกยากลับบ้าน ให้เบิกแยกต่างหากจากค่ารักษาผู้ป่วยในระบบ DRGs ซึ่งในระยะแรกกรมบัญชีกลางได้กำหนดให้เบิกในผู้ป่วยนอกตาม ว182 (29 เม.ย. 59) นั้น และได้มีประกาศ ว1202 ให้ยกเลิกการส่งข้อมูลในผู้ป่วยนอก

สำนักสารสนเทศบริการสุขภาพ

3 ธันวาคม 2564
Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

แนวทางเบิกค่ารักษาตามประกาศกรมบัญชีกลาง กรณีโควิด

0 0
Read Time:8 Minute, 2 Second

แนวทางการบันทึกข้อมูลเบิกค่ารักษาพยาบาล ที่เบิกผ่าน สกส.
ตามประกาศกรมบัญชีกลาง ว102, , ว130 , ว565 (หลักเกณฑ์การเบิก ในสถานการณ์ COVID-19 )

สำนักสารสนเทศบริการสุขภาพ
21 ธันวาคม 2563

แนวทางการบันทึกข้อมูลนี้ เป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับการเบิกค่ารักษาพยาบาล ตามประกาศ ของกรมบัญชีกลาง เรื่องหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสถานพยาบาลของทางราชการกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019 หรือ โควิด19 สำนักสารสนเทศบริการสุขภาพ (สกส. ในฐานะหน่วยงานที่รับงานการเบิกจ่ายขอกำหนดแนวทางการบันทึกข้อมูลเบิกดังนี้

1.รายการที่ให้เบิกตามประกาศฯ ข้อ4 และข้อ 5

ใช้รหัสรายการกรตรวจทางห้องปฏิบัติการ, ชุด, ค่าห้องและค่ายาตามรายการและอัตราที่กำหนดในตาราง

กลุ่มCSCODEคำอธิบายอัตรา
121401ค่าห้องดูแลโรคติดต่ออันตราย ต่อวันตามจริงไม่เกิน 2,500
2.1045001ค่าชุด PPE สำหรับบุคลากรเก็บตัวอย่าง (เฉพาะธุรกรรมก่อนวันที่ 1 ธันวาคม 2563)ตามจริงไม่เกิน 540
2.2045002ค่าชุด PPE สำหรับบุคลากรดูแลผู้ป่วยตามจริงไม่เกิน 740
3.1
3.2
3.3
3.4
3.5
3.6
3.7
3.8
3.9
3.10
3.X
รหัส TPUID ในระบบ TMTcholoquine
hydroxycholoquine
darunavir
favipiravir
lopinavir + ritonavir
oseltamivir
remdesivir
ritonavir
tocilizumab
azithromycin
(ยาอื่นที่ใช้กับกรณีนี้ได้ ซึ่ง สกส. จะทยอยประกาศ)
ตามจริงไม่เกิน 7,200
4.136590SARS coronavirus 2, qualitative RT-PCRตามจริงไม่เกิน 2,200*
4.236591SARS coronavirus 2 N gene, qualitative RT-PCRตามจริงไม่เกิน 2,200*
4.336592SARS coronavirus 2 RdRp gene, qualitative RT-PCRตามจริงไม่เกิน 2,200*
4.436593SARS coronavirus 2 IgG Ab [+1-] in Serum or Plasma by Rapid immunoassayตามจริงไม่เกิน 1,200
4.536594SARS coronavirus 2 IgM Ab [+/-] in Serum or Plasma by Rapid immunoassayตามจริงไม่เกิน 1,200
4.636595SARS coronavirus 2 IgG+IgM Ab [ +1-] in Serum or Plasma by Immunoassayตามจริงไม่เกิน 1,200
4.736596SARS coronavirus 2 Ag [+1-] in Respiratory specimen by Rapid immunoassayตามจริงไม่เกิน 1,200
4.X(Lab อื่นที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่ง สกส. จะทยอยประกาศ)ตามจริงไม่เกิน 1,200
5ไม่กำหนดค่าชุด PPE และค่าทำความสะอาดเชื่อบนรถส่งต่อตามจริงไม่เกิน 3,700

หมายเหตุ:รายการในกลุ่ม 4 ได้รวมค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล(PPE) สำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการแล้ว
*ปรับราคาลดลงจากตามจริงไม่เกิน 3,000 เหลือตามจริงไม่เกิน 2,200 และได้รวมค่าชุด PPE สำหรับเจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างไว้ด้วย ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 63 เป็นต้นไป

2.เงื่อนไขและข้อมูลการวินิจฉัยที่ต้องที่ระบุไว้ในธุรกรรม

2.1 รหัสเงื่อนไขที่ระบุว่าเป็น COVID
เงื่อนไขที่ใช้ระบุว่าเป็น COVID-19 คือ “COV-19”
2.2 รหัสวินิจฉัย (ICD-10)
กรณีรักษาแบบ OPD สงสัยเป็นกลุ่มเสี่ยงไม่แสดงอาการหรืออาการไม่รุนแรง
Z115: Special screening examination for other viral disease
เมื่อได้ผลตรวจกลับแล้วจึงส่งเบิก
หากผลเป็นลบ ไม่มีรหัสเพิ่มเติม
หากผลตรวจเป็นบวก มีการติดเชื้อให้เพิ่มรหัส U07.1: 2019 nCoV virus disease
การวินิจฉัยโรคอื่นที่พบในผู้ป่วยในครั้งเดียวกันนี้ก็บันทึกการวินิจฉัยตามปกติ ทั้งนี้อาการที่ให้รหัสเพิ่มอาจเกี่ยวข้องกับการดิดเชื่อ COVID หรือไม่ก็ได้ เช่น ไข้,คอแดง, ปวดเมื่อย เป็นต้น

กรณีรักษาแบบ OPD ตรวจติดตามหลังการรักษา

  • Z098: Follow-up examination after other treatment for other conditions
  • เมื่อได้ผลตรวจกลับแล้วจึงส่งเบิก
  • หากผลเป็นลบ ไม่มีรหัสเพิ่มเติม
  • หากผลตรวจเป็นบวก มีการติดเชื้อให้เพิ่มรหัส U07.1: 2019 nCoV virus disease

กรณีรับเป็นผู้ป่วยใน

  • มีอาการปอดติดเชื้อเป็นอาการสำคัญ
  • J12.8: Other virus pneumonia
  • ถ้ามีอาการอื่นๆ
  • รหัส ICD 10 ของโรค/อาการนั้นๆ
  • ผลการตรวจ COVID เป็นการชี้ชัดเหตุของอาการ
  • หากผลเป็นลบ ไม่มีหัสเพิ่มเติม
  • หากผลตรวจเป็นบวก มีการติดเชื้อให้เพิ่มรหัส
    • U07.1: 2019 nCoV virus disease
    • B97.2: Coronavirus as the cause of diseases classified to other chapters
  • หากมีอาการระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ให้เพิ่มรหัส J96.0x: Acute respiratory failure

3.การบันทึกข้อมูลเบิกในธุรกรรมเบิก

3.1 การรักษา กรณี OPD

  • การบันทึกธุรกรรมเบิกผู้ป่วยนอกใช้ระบบ CSOP รุ่น 0.93
  • ระบุรายการเบิกค่าชุด PPE สำหรับบุคลากรเก็บตัวอย่าง (กลุ่ม2.1) (เฉพาะธุรกรรมก่อน 1 ธ.ค.2563/ และค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ(กลุ่ม4) ใน
  • ระบุรหัสเงื่อนไขข้อ 2.1 ใน BilTran.AuthCode
  • ระบุการวินิจฉัยตามข้อ 2.2 ใน
  • หมายเหตุ กรณีได้ส่งเบิกผ่านไปแล้วก่อนประกาศนี้ สถานพยาบาลสามารถส่งรายการเบิกเพิ่มได้ โดยสร้างธุรกรรมเบิกใหม่ ใช้ Invno ใหม่ และอ้างอิง Approval Code ของธุรกรรมที่เบิกผ่านไปแล้ว

3.2 การรับเป็นผู้ป่วยใน

  • 3.2.1 กรณีรักษาในสถานพยาบาล
  • 3.2.1.1 โปรแกรม CSMBS
    • ต้องปรับปรุงแฟ้ม MedEquipdev และบันทึกธุรกรรมเบิกหมวดค่าใช้ต่างๆ ดังนี้
    • ค่าห้องดูแลโรคติดต่ออันตราย(กลุ่ม1) ให้บันทึกในหน้าค่ารักษาหมวดที่ 1
    • ค่าชุด PPE (กลุ่ม2) ให้บันทึกในหน้าค่ารักษาหมวดที่ 2
    • ค่ายา(กลุ่ม3) ให้บันทึกในหน้าค่ารักษาหมวดที่ 3
    • ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ(กลุ่ม4) ให้บันทึกในหน้าค่ารักษาหมวดที่ 7
    • ระบุรหัสเงื่อนไขข้อ 2.1 ในหน้า รับ/จำหน่าย ช่อง ProjectCode
    • ระบุการวินิจฉัยตามข้อ 2.2 ในหน้า วินิจฉัย/หัตถการ
  • 3.2.1.2 ระบบ CIPN
    • ข้อมูลการเบิกในแฟ้ม
    • ระบุรายการเบิกตามตารางในข้อ 1. ไว้ใน
    • ระบุรหัสเงื่อนไขข้อ 2.1 ใน
    • ระบุการวินิจฉัยตามข้อ 2.2 ใน
  • 3.2.2 กรณีรักษาในสถานที่พักฟื้นเพื่อรอจำหน่าย
  • 3.2.2.1 โปรแกรม CSMBS
    • การเบิกค่ารักษาในกรณีอยู่ในสถานที่พักฟื้นรอการจำหน่าย
    • สถานพยาบาลต้องจำหน่ายผู้ป่วยจากสถานพยาบาลในข้อ 3.2.1
    • ในสถานที่พักฟื้น ให้รับเป้นผู้ป่วยใน โดยใช้ HN เดิม และ AN ใหม่ จากข้อ 3.2.1
    • ให้เลือกเบิกเป็น ประเภทบริการ/รักษา เลือก “อื่น ๆ” ช่อง type ระบุ “CO”
    • ค่าชุด PPE (กลุ่ม2) ให้บันทึกในหน้าค่ารักษาหมวดที่ 2
    • ค่ายา(กลุ่ม3) ให้บันทึกในหน้าค่ารักษาหมวดที่ 3
    • ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ(กลุ่ม4) ให้บันทึกในหน้าค่ารักษาหมวดที่ 7
    • ระบุรหัสเงื่อนไขข้อ 2.1 ในหน้า รับ/จำหน่าย ช่อง ProjectCode
    • ระบุ 4 หลักสุดท้ายของรหัสสถานพยาบาลพักฟื้นชั่วคราว ในหน้า วินิจฉัย/ห้ตถการ ช่อง จากward เช่น รหัส “XM001” ระบุค่า “M001”
    • ระบุการวินิจฉัยตามข้อ 2.2 ในหน้า วินิจฉัย/หัตถการ
  • 3.2.2.2 ระบบ CIPN
    • ข้อมูลการเบิกในแฟ้ม
    • ระบุรายการเบิกตามตารางในข้อ 1. ไว้ใน
    • ระบุรหัสเงื่อนไขข้อ 2.1 ใน ClaimAuth.ProjectCode
    • ระบุ “CO” ใน ClaimAuth.ServiceType
    • ระบุการวินิจฉัยตามข้อ 2.2 ใน
    • ระบุ 4 หลักสุดท้ายของรหัสสถานพยาบาลพักฟื้นชั่วคราว ใน IPADT.dischWard เช่น รหัส “XM001” ระบุค่า “M001”

3.3การเบิกค่ารถส่งต่อ

  • 3.3.1 การเบิกค่ารถส่งต่อ ค่าชุด PPE และค่าทำความสะอาดเชื้อบนรถส่งต่อ
    • เบิกผ่านระบบเบิกค่ารถส่งต่อ(AmbtrCS)ตามปกติ โดยระบุข้อมูลเพิ่มเดิมดังนี้
    • ให้เลือก (คลิก )กรณี “อุบัติเหตุหรือฉุกเฉินในภาวะวิกฤติ”
    • เหตุผลที่ส่งต่อที่ 1. ระบุเป็น “COVID-19”
    • เหตุผลที่ส่งต่อที่ 2. ระบุจำนวนเงินที่ขอเบิกค่าชุด PPE และค่าทำความสะอาดเชื้อบนรถส่งต่อ
  • 3.3.2 การเบิกค่ารถ กรณีส่งต่อเพื่อไปสถานที่พักฟื้น
    • เบิกผ่านระบบเบิกค่ารถส่งต่อ(AmbtrCS)ปกติตามข้อ 3.3.1 ซึ่งรวมกรณีส่งต่อจากสถานที่พักฟื้นไปสถานพยาบาลด้วย โดยมีข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้
    • สกส. ออกรหัสสถานพยาบาลชั่วคราวสำหรับสถานที่พักฟื้นเป็นการเฉพาะ สถานพยาบาลแจ้งขอ/ตรวจสอบรหัสสถานพยาบาลชั่วคราวได้ที่ www.chi.or.th
    • ให้ใช้รหัสชั่วคราว เป็นรหัสถานพยาบาลต้นทาง หรือปลายทางแล้วแต่กรณี
    • สถานพยาบาลที่เป็นเจ้าของรถส่งต่อ ไม่ใช่หัสสถานพยาบาลชั่วคราว
    • สำหรับขั้นตอนส่งข้อมูล,เอกสารตอบรับ,Statement และคำขอเบิก เป็นแนวทางเดียวกันกับแต่ละระบบใช้อยู่เป็นปกติ

4.การเบิกค่ายา กรณีส่งยาให้ผู้ใช้สิทธิทางไปรษณีย์

  • การส่งยาทางไปรษณีย์หรือการรับยานอกสถานพยาบาล เป็นมาตรการลดการแพร่กระจายของโรคในสถานการณ์โรคติดต่อร้ายแรง ไม่ได้เจาะจงกับโรค COVID19 นี้
  • แนวทางนี้ใช้เฉพาะกิจตามข้อ 8 ในประกาศฯ กับผู้ป่วยที่ไม่ได้มาสถานพยาบาลเท่านั้น เมื่อมีการพัฒนาแนวทางการนยันการรับยาใหม่ขึ้นมา ก็จะมีการประกาศปรับเปลี่ยนให้ทราบเพื่อใช้แทน
  • แนวทางการทำธุรกรรม
  • ส่งข้อมูลเบิกผ่านระบบ CSOP รุ่น 0.93
  • ธุรกรรมที่เบิก เป็นค่าใช้จ่ายค่ายาตามระบบปกติ เท่านั้น
  • Approval Code ให้ดำเนินการผ่านระบบ KTB Corporate Online โดยบันทึกเหตุผลว่า “ส่งยา”
  • ให้ใส่ Tracking Number ในช่อง BillTran.VerCode ต่อท้าย Approval Code โดยคั่นด้วยเครื่องหมาย “:”

5.การเบิกกรณีที่เข้าข่าย ORS

  • สกส.จะประมวลผลข้อมูลกรณีเข้าข่าย ORS ตามวิธีการและแนวปฏิบัติดาม ว187 (17 พ.ค. 2556) โดยจะปรับค่า Outlier Loss Threshold (OLT) ของแต่ละสถานพยาบาลให้ลดลงร้อยละ 70 ของค่า OLT เดิม ทั้งนี้เฉพาะกรณีการรักษาผู้ป่วยในที่จำหน่ายดั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.63 และมีการวินิจฉัยเป็น COVID-19
  • เมื่อสถานพยาบาลได้รับแจ้งกรณีที่เข้าข่าย ORS จาก สกส. ให้ปฏิบัติตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2. ของ ว187 (17 พ.ค. 2556 ) ขั้นตอนการพิจาณา ORS และการจ่ายชดเชย จะเป็นไปดามกระบวนการ ORS

ไฟล์เอกสารที่เกี่ยวข้อง

Happy
4 80 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
1 20 %
Surprise
0 0 %

Error Code ระบบ CSOP

0 0
Read Time:9 Minute, 20 Second

Error Code การส่งเบิกจ่ายในระบบ CSOP ของ สกส.พร้อมคำอธิบายและความหมาย เริ่มใช้เมื่อ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป

errcodeคำอธิบาย/ความหมายรหัสเดิม
A00approval code ว่างA0
A01approval code ไม่ถูกต้อง/ไม่พบในฐานข้อมูล EDCA1
A02approval code ถูกยกเลิกแล้วA2
A03เลขบัตรประชาชนไม่ตรงกับข้อมูลที่แจ้งไว้กับเครื่อง edcA3
A04จำนวนเงินไม่ตรงกับที่แจ้งไว้กับเครื่อง edcA4
A05วันที่ทำธุรกรรมไม่ตรงกับที่แจ้งไว้กับเครื่อง edcA5
A06approval code ถูกใช้เบิกไปแล้วA6
A07วันที่ออก Approval Code หลังวันรับบริการเกิน 72 ชม.A7
C00รพ.แจ้งขอยกเลิกข้อมูลเบิกค่ารักษาพยาบาลC0
C00รพ.แจ้งขอยกเลิกข้อมูลเบิกค่ารักษาพยาบาล79
C01ไม่มีสิทธิ ณ วันรักษา22
C01ไม่มีสิทธิ22
C02วันที่รักษาไม่มีสิทธิ53
C04มีการส่งเบิกค่ารักษาฯ ซ้ำซ้อนใน รพ.เดียวกัน (ส่งเบิกต่างวันกัน)55
C05มีการส่งเบิกค่ารักษาฯ ซ้ำซ้อนใน รพ.เดียวกัน (ส่งเบิกในวันเดียวกัน)56
C06Authcode ไม่ถูกต้อง16
C06Authcode ไม่ถูกต้อง17
C11ใช้สิทธิ กทม. แต่ รพ.ไม่เข้าร่วมโครงการหรือใช้สิทธินอกช่วงการเข้าร่วมโครงการ7D
C12ใช้สิทธิ กสทช. แต่ รพ.ไม่เข้าร่วมโครงการหรือใช้สิทธินอกช่วงการเข้าร่วมโครงการ7E
C13ใช้สิทธิ กกต. แต่ รพ.ไม่เข้าร่วมโครงการหรือใช้สิทธินอกช่วงการเข้าร่วมโครงการ7F
C14ใช้สิทธิ เมืองพัทยา แต่ รพ.ไม่เข้าร่วมโครงการหรือใช้สิทธินอกช่วงการเข้าร่วมโครงการ7G
C15วันที่รับบริการหลังวันที่ 30 กย.56 และเป็น รพ. ที่อยู่นอกหนือจาก 168 แห่งตาม ว.3507A
C21ส่งเบิกค่ารักษาฯ ซ้ำซ้อนกับการเบิกเหมาจ่ายค่าฟอกไต(HD)57
C22ส่งเบิกค่ารักษาฯ ซ้ำซ้อนกับช่วงที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล(IPD)58
C31ไม่ระบุเลขประจำตัวประชาชน 
E01เบิกยากลับบ้าน ตามประกาศ ว.182 วันที่รับบริการ(Dttran) # วันที่จำหน่ายออกจาก รพ.(DateDsc)74
E02เบิกยากลับบ้าน ตามประกาศ ว.182 ไม่พบรายการยาที่ขอเบิก75
E03เบิกค่ายากลับบ้าน ตามประกาศ ว.182 รายการยาไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข76
E04เบิกยากลับบ้าน ว.182 Dttran ก่อน 1 กค. 59 (ให้นำเบิกกรณีเบิกยาย้อนหลัง) หรือ ยอดเบิกยาไม่ตรงกับที่ สกส. อนุมัติ77
E05เบิกค่ายากลับ ตาม ว.182 แต่เลขอนุมัติผป.ใน ที่แจ้งไม่ถูกต้อง78
E06เบิกยากลับบ้าน ว.182 เบิกหมวดอื่น ๆ ที่มิใช่หมวดยา7B
F11DTTran อยู่นอกช่วงการอนุมัติขอใช้ยาควบคุมเฉพาะ OCPA54
F12มีการใช้ยา OCPA แต่ไม่ได้ลงทะเบียน OCPA54
F13มียามะเร็งและโลหิตวิทยาที่ห้ามเบิกในระบบจ่ายตรงตาม ว.34 แนบ39T
F14มีการเบิกยาห้ามเบิก ( เบิกไม่ได้ทั้งจ่ายตรงและจ่ายต้นสังกัด)9Y
F21DTTran อยู่นอกช่วงการอนุมัติขอใช้ยาควบคุมเฉพาะ RDPA54
F22มีการใช้ยา RDPA แต่ไม่ได้ลงทะเบียน RDPA54
F23เบิกยา RDPA เกินอัตราที่กำหนดตาม ว.16654
F31DTTran อยู่นอกช่วงการอนุมัติขอใช้ยาควบคุมเฉพาะ DDPA54
F32มีการใช้ยา DDPA แต่ไม่ได้ลงทะเบียน DDPA54
G01ไม่พบรหัสยาในรายการยาที่ รพ. แจ้งไว้99
G02เป็นยาควบคุม 9 กลุ่ม (TMT) แต่ไม่แจ้งเงื่อนไขกำกับการเบิก9C
G03DrugCatalog ไม่ถูกต้อง (รหัส TMT ไม่ถูกต้อง/ราคาเบิกสูงผิดปกติ )9D
G04ระบุ claim control เป็น EF (ไม่เบิก)  แต่มีการเบิกค่ายา9E
G05ระบุรหัส TMT ในฟิลด์ Drug ID ของ DispensedItems แต่ไม่ระบุใน Drug Catalog9J
G06ไม่ระบุรหัส TMT ในฟิลด์ Drug ID ของ DispensedItems แต่ระบุใน Drug Catalog9K
G07ระบุรหัส TMT ในฟิลด์ Drug ID ของ DispensedItems และระบุใน Drug catalog แต่ระบุไม่ตรงกัน9L
G08ไม่ระบุรหัส TMT ทั้งในฟิลด์ Drug ID ของ DispensedItems และใน Drug Catalog9N
G09ประเภทยาและเวชภัณฑ์ (Product Category) ใน DispensedItems และ Drug Catalog ไม่ตรงกัน9P
G10ราคายาไม่ตรงกับ Drugcatalog9Q
G11DTTran ไม่อยู่ในช่วงที่ รพ. แจ้งใช้ราคายานี้9R
G12ไม่พบรายการยาใน drug catalog กลาง9U
G13ราคาเบิกยาไม่อยู่ในช่วงราคาให้เบิกของ drug catalog กลาง9V
L01รหัส TMLT ที่ระบุใน billitem ไม่พบในรายการอ้างอิงการตรวจทางห้องปฏิบัติการ  (TMLT)31
L02ไม่พบรหัส lab ในรายการ lab catalog ที่ รพ. แจ้งไว้  (hcode+lccode+stdcode)32
L02ไม่พบรหัส lab ในรายการ lab catalog ที่ รพ. แจ้งไว้  (hcode+lccode+stdcode)BJ
L02ไม่พบรหัส lab ในรายการ lab catalog ที่ รพ. แจ้งไว้  (hcode+lccode+stdcode)BL
L03ราคา RP เกินอัตราที่ บก. กำหนด33
L03ราคา RP เกินอัตราที่ บก. กำหนดBN
L04ราคา UP ไม่ตรงกับราคาที่แจ้งใน lab catalog34
L04ราคา UP ไม่ตรงกับราคาที่แจ้งใน lab catalogBM
L05DTTran ไม่อยู่ในช่วงที่ รพ. แจ้งใช้ราคายานี้35
L05DTTran ไม่อยู่ในช่วงที่ รพ. แจ้งใช้ราคายานี้BP
L06ราคา RP ไม่ตรงกับราคาที่แจ้งใน lab catalog36
L07ไม่มี stdcode37
L08รหัสค่าบริการโลหิต และส่วนประกอบของโลหิต ใน billitem ไม่พบในรายการที่ให้เบิกBK
L09รหัสค่าบริการโลหิต และส่วนประกอบของโลหิต ราคาเกินที่ให้เบิกBK
L10รหัสค่าบริการโลหิต และส่วนประกอบของโลหิต วันที่ไม่อยู่ในช่วงที่ให้เบิกBK
Q01รหัสอุปกรณ์ที่ระบุใน billitem ไม่พบในรายการที่ให้เบิกBK
Q02ราคารหัสอุปกรณ์เกินอัตราที่ บก. กำหนดBN
Q03DTTran ไม่อยู่ในช่วงที่ให้เบิกอุปกรณ์นี้ได้BP
R01Dispense ID ซ้ำ กับที่เคยส่งมาแล้ว90
R02Dispense ID ใน Dispensing link ไม่ได้กับ DispensedItems / จำนวนไม่เท่ากับ Items Count ที่ระบุ91
R03Dispense ID ใน DispensedItems link ไม่ได้กับ Dispensing92
R04ยอดเบิกของ Dispensing และ DispensedItems ไม่ตรงกัน93
R05Dispense ID ซ้ำในไฟล์เดียวกัน90
R12ขาดข้อมูลที่กำหนดว่าต้องมี (required) และระบุไม่ตรงกับรูปแบบที่ประกาศไว้94
R13BenefitPlan ไม่ถูกต้อง94
R14DispeStat ไม่ถูกต้อง94
R15MultiDisp ไม่ถูกต้อง94
R16SupplyFor ไม่ถูกต้อง94
R17PrdCat ไม่ถูกต้อง94
R18PrdSeCode ไม่ถูกต้อง94
R19Claimcont ไม่ถูกต้อง94
R20ClaimCat ไม่ถูกต้อง94
R21เลข ว. แพทย์ไม่ถูกต้องตามรูปแบบที่กำหนด9A
R22ขาดข้อมูลขนาดบรรจุ94
R23ขาดชื่อ dose, form, strength94
R24ขาดวิธีการใช้ยา94
R31ใน BillTran มีการเบิกค่ายา แต่ขาดข้อมูลยาใน BillDisp95
R32มีข้อมูลยาใน BillDisp  แต่ไม่มีการเบิกค่ายาใน BillTran96
R33ยอดเบิกยาใน Billtran ไม่เท่ากับ Dispensing97
R34HN ในข้อมูลยาไม่ตรงกับ HN ใน BILLTRAN9F
R35Pid ในข้อมูลยาไม่ตรงกับ Pid ในทะเบียนผู้ป่วย (Pid : เลขประจำตัวประชาชน)9G
R41จำนวนเงินที่ขอเบิกไม่ถูกต้อง (charge # claim+paid+other)98
R42Charge amount  ไม่ถูกต้อง (quantity x unit price)9H
R43Reimb amount  ไม่ถูกต้อง (quantity x reimb price)9I
R51รหัสยา TMT ที่ระบุในฟิลด์ Drug ID ของ DispensedItems ไม่พบในบัญชีรายการยาและ รหัสยามาตรฐานไทย (TMT)9M
R52เบิกยามากกว่าที่กำหนด9S
R53มีการเบิก EPO ในผู้ป่วยฟอกไต9X
S01SVID ซ้ำกับรายการที่ส่งเบิกมาแล้วC1
S02SVID ซ้ำกับรายการที่ตรวจวันเดียวกันC2
S03Class ของ OPServices ไม่ถูกต้อง หรือไม่สอดคล้องC3
S04CareAccocnt ไม่ถูกต้องC4
S05TypeServ ไม่ถูกต้องC5
S06TypeIn ไม่ถูกต้องC6
S07TypeOut ไม่ถูกต้องC7
S08Clinic ไม่ถูกต้องC8
S09CodeSet ของ OPServices ไม่ถูกต้องC9
S10CodeSet ของ OPDX ไม่ถูกต้องD3
S11Completion ไม่ถูกต้องCA
S12ClaimCat ไม่ถูกต้องCB
S13SL ไม่ถูกต้องD2
S14DTAppoint ไม่ถูกต้องCC
S15เลขที่ใบประกอบวิชาชีพ (SVPID) ไม่ถูกต้องCD
S16วันที่เริ่มต้นให้บริการไม่สัมพันธ์กับ BilltranCE
S17วันที่สิ้นสุด (ENDDT) ใน OPServices ไม่ถูกต้องCF
S18รหัสวินิจฉัยไม่ถูกต้องหรือไม่สัมพันธ์กับ CodeSetD4
S19รหัสการให้บริการไม่ถูกต้องหรือไม่สัมพันธ์กับ CodeSetCG
S20SVCharge ใน OpService ไม่เท่ากับ ChargeAmt ใน BillItems  หมวดค่าธรรมเนียมบุคลากรทางการแพทย์CL
S21SVCharge ใน OpService ไม่เท่ากับ ChargeAmt ใน BillItems หมวดค่าทำหัตถการและวิสัญญีCL
S31Inv No. ใน OPServices ไม่ตรงกับ Inv No. ใน BilltranCH
S32Hn ใน OPServices ไม่ตรงกับ Hn ใน BilltranCH
S33PID ใน OPServices ไม่ตรงกับ PID ใน BilltranCJ
S34SVID ใน OPDX ไม่พบใน OPServicesD5
S35Class ใน OPDX ไม่พบใน OPServicesD6
S36ไม่พบรายการ Service ใน BillItemsCK
S40Class ใน OPServices เป็น การตรวจรักษา (EC) แต่ไม่แจ้งรหัสวินิจฉัยโรคที่ แฟ้ม OPDXD7
S41Class ใน OPServices เป็น หัตถการ (OP) แต่ไม่แจ้งรหัสหัตถการ ที่ STDCode แฟ้ม OPServicesD8
S43Class ของ OPDX ไม่ถูกต้องD1
T01InvNo ซ้ำในวันเดียวกัน12
T02InvNo ซ้ำกับที่เคยเบิกแล้ว12
T03ไม่ระบุ HN ในรายการ21
T04ไม่ระบุ Station51
T05วันที่รักษาไม่ถูกต้อง52
T06PayPlan ไม่ถูกต้องBE
T07TFlag ไม่ถูกต้องB3
T08รหัสสิทธิที่ร่วมจ่ายไม่ถูกต้อง (Otherpayplan)B4
T09มีรายการ OPBills ของ InvNo นี้ใช้รหัสหมวดไม่ถูกต้อง63
T09รหัสหมวด (BillMuad) ไม่ถูกต้องB5
T10รหัสประเภทบัญชีการเบิก (ClaimCat) ไม่ถูกต้องB6
T11LCCode ไม่ถูกต้องB7
T12STDCode ใน dispsitem ไม่พบใน billitem สำหรับหมวด 3 และ 4B8
T13Qty ไม่ถูกต้องB9
T14UP ไม่ถูกต้องBA
T15SVRefID ไม่ถูกต้อง กรณีเป็นหมวด 3 และ 5BB
T16SVRefID ไม่ถูกต้อง กรณีเป็นหมวด IBB
T17SVRefID ไม่ถูกต้อง กรณีเป็นหมวด BBB
T31ไม่มีรายการ OPBills ของ BillTran นี้ (ใช้ InvNo เป็น key)62
T32ผลรวมของ Paid + ClaimAmt + OtherPayB1
T33ยอดรวม Amount, Paid ของ InvNo นี้ไม่ตรงกับที่แจ้งใน OPBills64
T41รายการ OPBills นี้ไม่มี BillTran กำกับมาด้วย65
T42SVDATE ไม่สัมพันธ์กับ BilltranBD
T43ราคาที่เรียกเก็บ ChargeAmt ไม่เท่ากับ ราคาขายต่อหน่วย UP x จำนวน Qty66
T44ยอดเงินที่ขอเบิก ClaimAmount ไม่เท่ากับ ราคาเบิกได้ต่อหน่วย ClaimUP x จำนวน Qty66
T45ผลรวมจำนวนเงินขอเบิก ClaimAmount  ไม่เท่ากับยอดเงินที่ขอเบิกรวม ClaimAmtB2
T61รายการลบหรือแก้ไขที่ไม่พบ Inv No. เดิม 
T71Paid มากกว่า Amount67
T72เบิกค่ารักษาพยาบาลรวมต่ำผิดปกติ (< 14)68
T73หมวดค่าบริการทางการพยาบาลสูงผิดปกติ69
T74เบิกค่าบริการการพยาบาล 50 บาท มากกว่า 1 ครั้งในบริการวันเดียวกันและ invno ต่างกัน6A
T75เบิกค่ารักษาพยาบาลรวมสูงผิดปกติ70
T76มีการเบิกค่าห้องเกินอัตราที่กำหนด(100 บาท/วัน)72
T77Amount ไม่ใช่ข้อมูลชนิดตัวเลข, เป็น 0 หรือ ติดลบ61
T78เบิกค่าบริการผู้ป่วยนอก 50 บาท ในผู้ป่วยที่มีการนัดมาทำหัตถการต่าง ๆ7C
T79มีการเบิกค่ารักษาอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษา/ยอดติดลบ73
T80มียอด Otherpay แต่ไม่แจ้งรหัสสิทธิร่วมจ่าย(OtherPayPlan)BG
T81ใน BillItem มีหมวดหัตถการและวิสัญญี ไม่พบรายการใน OPServices (Class = OP)BC
T82เบิกอุปกรณ์อวัยวะเทียม(หมวด 2) ที่ไม่สามารถเบิกในผู้ป่วยนอกได้BU
T83Otherpayplan ไม่ถูกต้องBF
V01ระบุเงื่อนไขว่าเป็นกรณี COVID-19 แต่ไม่มีการแจ้งค่ารักษาฯ เกี่ยวกับกรณี COVID-19BS
V02เบิกค่ารักษาฯ กรณี COVID-19 ไม่ระบุรหัสเงื่อนไขว่าเป็นกรณี COVID-19(AuthCode ใน BillTran)BR
V03เบิกค่ารักษาฯ กรณี COVID-19 ไม่มีรหัสโรคที่บ่งบอกเฉพาะการติดเชื้อ COVID-19DA
V04เบิกค่ารักษาฯ กรณี COVID-19 ที่มิให้เบิกเป็น กรณี ผู้ป่วยนอกBT
W31รหัส TMLT ที่ระบุใน billitem ไม่พบในรายการอ้างอิงการตรวจทางห้องปฏิบัติการ  (TMLT)W31
W32ไม่พบรหัส lab ในรายการ lab catalog ที่ รพ. แจ้งไว้  (hcode+lccode+stdcode)W32
W33ราคายา RP เกินอัตราที่ บก. กำหนด / ไม่ตรงกับราคาที่แจ้งใน lab catalogW33
W34ราคายา UP ไม่ตรงกับราคาที่แจ้งใน lab catalogW34
W35DTTran ไม่อยู่ในช่วงที่ รพ. แจ้งใช้ราคายานี้W35
WBKSTDCode นี้ไม่มี/ไม่พบในบัญชีรายการWBK
WBNราคาขอเบิกสูงกว่าอัตรากำหนดWBN
WBPวันที่ใช้บริการ ไม่อยู่ในช่วงเวลาที่ให้เบิกได้WBP
WBUเบิกอุปกรณ์อวัยวะเทียม(หมวด 2) ที่ไม่สามารถเบิกในผู้ป่วยนอกได้WBU
WC0รายการเบิกจากการอุทธรณ์ 
WE0รายการเบิกค่ายากลับบ้าน ตามประกาศ ว.18289
WS1SL ไม่ถูกต้องD2
WS2รหัสการให้บริการไม่ถูกต้องหรือไม่สัมพันธ์กับ CodeSetCG
X01รหัสค่าใช้จ่ายทางรังสีวิทยาใน billitem ไม่พบในรายการที่ให้เบิกBK
X02ราคาค่าใช้จ่ายทางรังสีวิทยาเกินอัตราที่ บก. กำหนดBN
X03DTTran ไม่อยู่ในช่วงที่ให้เบิกค่ารักษาทางรังสีวิทยานี้ได้BP
Happy
4 80 %
Sad
0 0 %
Excited
1 20 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

แนวปฏิบัติการเบิกค่ายากลับบ้านแยกต่างหากจากค่ารักษาผู้ป่วยในระบบ DRGs

0 0
Read Time:5 Minute, 0 Second

แนวปฏิบัติการเบิกค่ายากลับบ้านแยกต่างหากจากค่ารักษาผู้ป่วยในระบบ DRGs สำหรับหน่วยบริการที่เบิกผ่าน สกส.

ตามประกาศกรมบัญชีกลางเลขที่ กค 0431.4/ว.182 วันที่ 29 เมษายน 2559 เรื่อง การเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยในตามเกณฑ์กลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) ซึ่งกำหนดให้การส่งเบิกค่า “ยากลับบ้าน” ในระบบผู้ป่วยนอก โดยวิธีการส่งข้อมูลให้เป็นไปตามที่สำนักงานกลางสารสนเทศบริการสุขภาพ(สกส.) กำหนด เพื่อให้สถานพยาบาลปรับปรุงวิธีการเบิกค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในด้วยระบบ DRGs ในการเบิกค่ายาส่วนนำกลับได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ สกส. จึงกำหนดแนวปฏิบัติการส่งเบิกค่ายากลับบ้านตามประกาศข้างต้น ดังต่อไปนี้

ข้อมูลส่งเบิกค่ายากลับบ้าน

  1. เลขอนุมัติผู้ป่วยในที่ขอได้จากระบบขอเลขอนุมัติผู้ป่วยในจะถูกใช้เป็นเลขอ้างอิง การขอเลขอนุมัติฯ ตั้งแต่รับผู้ป่วยในไว้และเก็บแบบพิมพ์ไว้อ้างอิง จะช่วยให้บันทึกข้อมูลเบิกได้สะดวกและไม่ผิดพลาด
  2. แพทย์ผู้สั่งยาเป็นผู้พิจารณาว่ารายการยาใดเป็นยากลับบ้านตามเงื่อนไขในประกาศฯ
  3. เฉพาะรายการที่ถูกระบุว่าเป็นยากลับบ้านให้ส่งเบิกด้วยแนวปฏิบัตินี้ ยาอื่นให้ระบุค่ายาผู้ป่วยในซึ่งเบิกในระบบ DRG โดยค่ายาผู้ป่วยในต้องไม่ซ้าซ้อนกับค่ายากลับบ้านนี้
  4. ข้อมูลธุรกรรมเบิกจ่ายตรงผู้ป่วยนอกของการเบิกนี้ประกอบด้วย
    • 4.1. รายการในส่วน billtran 1 รายการต่อการจำหน่ายครั้งหนึ่งเท่านั้น
    • 4.2. รายการ billtran นี้ระบุเลขอนุมัติผู้ป่วยในครั้งนี้ไว้ในฟิลด์ authcode (ตามภาพที่ 1)
    • 4.3. รายการ opbill 1 รายการอันเป็นรายละเอียดของ billtran ข้างต้น ระบุเป็น หมวด 4 (ค่ายากลับบ้าน) และมูลค่ายา
    • 4.4. รายการ billdisps ที่เป็นข้อมูลใบสั่งยากลับบ้านแต่ละใบ กรณีที่มีใบสั่งยากลับบ้านมากกว่า 1 ใบในการจำหน่ายครั้งนั้น ให้ทำรายการ billdisps ตามจำนวนใบสั่งยาแล้วรวบส่งใน billtran เดียวกัน
ภาพที่ 1 ระบุเลขอนุมัติผู้ป่วยในครั้งนี้ไว้ในฟิลด์ authcode ในข้อ 4.2

ระยะเวลาในการส่งข้อมูล

การเบิกค่ายากลับบ้านถือเป็นการเบิกในระบบผู้ป่วยนอกประเภทหนึ่ง เพื่อให้การเบิกจ่ายมีประสิทธิภาพ จึงกำหนดรายละเอียดระยะเวลาในการส่งข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้

  1. กำหนดระยะเวลาการส่งเบิกค่ายากลับบ้านสัมพันธ์กับการส่งเบิกผู้ป่วยในดังนี้
    • 5.1. กรณีส่งเบิกค่ายากลับบ้านก่อนส่งเบิกผู้ป่วยใน สถานพยาบาลจะต้องส่งเบิกผู้ป่วยในภายใน 90 วันนับจากวันที่การเบิกค่ายากลับบ้านผ่าน
    • 5.2. กรณีส่งเบิกผู้ป่วยในก่อนส่งเบิกค่ายากลับบ้าน สถานพยาบาลจะต้องส่งเบิกค่ายากลับบ้านภายใน 15 วันนับจากวันที่การเบิกผู้ป่วยในผ่าน

เงื่อนไขในการตรวจสอบข้อมูลเบิก

เงื่อนไขการตรวจรับข้อมูลการเบิกค่ายากลับบ้านที่เพิ่มเติมจากการตรวจสอบข้อมูลเบิกจ่ายตรงผู้ป่วยนอกปกติคือ

  1. วันที่ของการจ่ายยากลับบ้านที่สอดคล้องกับวันที่จาหน่ายผู้ป่วยในรายที่เบิก
  2. วันที่การส่งเบิกอยู่ในระยะที่ข้อ 5.1 และ 5.2 กำหนด วันที่ส่งเบิกนับจากวันที่ธุรกรรมผ่านการตรวจรับ
  3. รายการยากลับบ้านที่ตรวจผ่านแล้ว จะถูกนำมาตรวจว่าตรงกับเงื่อนไขยากลับบ้านตามประกาศอีกครั้งทุก 3 เดือน รายการยาที่ไม่ตรงกับเงื่อนไขจะถูกระงับการจ่ายย้อนหลัง โดยแจ้งเป็นรายการที่ถูกระงับพร้อมแสดงยอดปรับปรุงหักออกจากยอดเบิกใน statement สถานพยาบาลสามารถแจ้งขออุทธรณ์โดยส่งข้อมูลเพิ่มเติมเข้าระบบเบิกจ่ายตรงอีกครั้งภายใน 30 วันนับจากวันออก statement

การรายงานผลในตอบรับรายวัน บัญชีรายการเบิกค่ารักษา(Statement) และคำขอเบิก

การตอบรับยากลับบ้าน ตอบในเอกสารตอบรับรายวันตามรอบระยะเวลาเช่นเดียวกับการเบิกจ่ายตรงผู้ป่วยนอกปกติ

กรณีผู้ใช้สิทธิไม่สามารถหรือยังไม่ได้ลงทะเบียนจ่ายตรงกับสถานพยาบาล

โดยที่ระบบจ่ายตรงผู้ป่วยนอกใช้ทะเบียนจ่ายตรงของแต่ละสถานพยาบาลอ้างอิง กรณีผู้ใช้สิทธิไม่มีข้อมูลในฐานทะเบียนบุคลากรภาครัฐจะไม่สามารถลงทะเบียนได้ จำเป็นต้องสำรองจ่ายก่อนแล้วเบิกจากต้นสังกัดภายหลัง เพื่อให้สถานพยาบาลทราบปัญหานี้ ขอแนะนำให้ดาเนินการดังนี้

  1. สถานพยาบาลขอเลขอนุมัติผู้ป่วยในให้กับผู้ป่วยในที่ใช้สิทธิสวัสดิการฯทุกรายตั้งแต่แรกรับ
  2. ระบบจะแจ้งสถานะผู้ขอว่าเป็นผู้มีสิทธิและอยู่ในฐานทะเบียนบุคลากรภาครัฐหรือไม่
  3. ผู้ป่วยในที่ลงทะเบียนจ่ายตรงกับสถานพยาบาลที่รับเป็นผู้ป่วยในแล้ว ให้เบิกจ่ายตรงได้เลย
  4. ผู้ป่วยในที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนจ่ายตรงกับสถานพยาบาล
    • 12.1. ถ้าอยู่ในฐานทะเบียนบุคลากรฯ ให้ลงทะเบียนกับสถานพยาบาลด้วยกรณี“ฉุกเฉิน” แล้วนำเลขอนุมัติที่ได้มาใช้ในขั้นตอนการเบิก โดยระบุในฟิลด์ MemberNo (ตามภาพที่2)
    • 12.2. ถ้าไม่อยู่ในฐานทะเบียนบุคลากรฯ ให้บันทึกสถานะนี้ไว้ในเอกสารผู้ป่วยในเพื่อให้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของสถานพยาบาลรับรู้ เมื่อมีการจ่ายยากลับบ้าน ให้เก็บค่ายาส่วนนี้จากผู้ใช้สิทธิ และให้ผู้ใช้สิทธิขอเบิกจากต้นสังกัดของตนต่อไป (ตามภาพที่ 3)
ภาพที่ 2 ระบุเลขอนุมัติฉุกเฉินในฟิลด์ MemberNo ในข้อ 12.1
ภาพที่ 3 ผู้ใช้สิทธิ์ไม่อยู่ในฐานข้อมูลบุคลากรภาครัฐ ในข้อ 12.2

การเบิกค่ายากลับบ้านกรณีที่ได้ส่งเบิกผู้ป่วยในไปก่อนหน้าแล้ว

สำหรับผู้ป่วยในที่มียากลับบ้านตามเงื่อนไขในประกาศข้างต้น ที่ไม่ได้ส่งเบิกตามแนวปฏิบัตินี้แต่ได้ส่งเบิกค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในด้วยระบบ DRG ไปก่อนหน้าแล้ว สกส. กำหนดวิธีการเบิกค่ายาส่วนนี้แยกต่างหากจากการเบิกข้างต้น ขอให้สถานพยาบาลที่ประสงค์จะเบิกส่งเบิกค่ายากรณีย้อนหลังนี้ภายในวันที่ 25 สิงหาคม 2559 ซึ่งจะจ่ายในบัญชีผู้ป่วยนอกงวดสิ้นเดือนสิงหาคม 2559 (เลขงวด statement 160802) เท่านั้น เพื่อให้การเบิกส่วนนี้เป็นไปอย่างถูกต้องและรัดกุม ขอให้ทางสถานพยาบาลติดต่อเจ้าหน้าที่ของ สกส ที่จะให้รายละเอียดและแนะนำการส่งเบิกเพิ่มเติมได้ โดยติดต่อโทร. 02-298-0413 ต่อ 106 หรือ e-mail: csmbs-edit@cs.chi.or.th หัวเรื่อง: “ขอส่งเบิกยากลับบ้านย้อนหลัง”

Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

รวมรหัสเบิกcovidสิทธิข้าราชการและอปท.

0 0
Read Time:8 Minute, 29 Second

รวมรหัสในการเบิกชดเชยค่าบริการทางการแพทย์สิทธิข้าราชการและอปท. ในระบบ e-Claim ของ สปสช. ในกรณีโควิด-19 อัพเดต 1 กันยายน 2564

สิทธิรหัสเบิกชื่อ ราคา  หน่วย  วันที่เริ่มบริการ  วันทีสิ้นสุด การบันทึกข้อมูลการกำหนดค่า 16 แฟ้ม 
         
ค่าห้อง21401ค่าห้องควบคุมผู้ป่วย COVID ใน รพ                                       2,500.00 วัน 2 มีนาคม 256315 สิงหาคม 2564หมวด 1แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=10
ค่าห้อง21411ค่าหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ                                      1,500.00 วัน 2 มีนาคม 256315 สิงหาคม 2564หมวด 1แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=10
ค่าห้อง21501ค่าบริการและดูแลผู้ป่วยกรณีพักรอก่อนเข้ารักษา                                      1,000.00 วัน 28 มิถุนายน 2564หมวด 1แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=10
ค่าห้อง21421ค่าห้องควบคุม/ดูแลสำหรับผู้ติดเชื้อมีอาการเล็กน้อย                                      1,500.00 วัน 16 สิงหาคม 2564หมวด 1แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=10
ค่าห้อง21422ค่าห้องควบคุม/ดูแลสำหรับผู้ติดเชื้อมีอาการปานกลาง                                      3,000.00 วัน 16 สิงหาคม 2564หมวด 1แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=10
ค่าห้อง21423ค่าห้องควบคุม/ดูแลสำหรับผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรง                                      7,500.00 วัน 16 สิงหาคม 2564หมวด 1แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=10
ค่าอุปกรณ์9301ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในการติดตามอาการผู้ป่วย                                      1,100.00ครั้ง28 มิถุนายน 2564หมวด 2แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=2
ค่ายาCOVID-DRUG1chloroquine (ยกเลิกการเบิก 4/6/2564) ตามจริงไม่เกิน  7,200 บาท
ทั้งนี้ ฟ้าทะลายโจร ไม่เกิน 300 บาท 
 – 2 มีนาคม 25634 มิถุนายน 2564หมวด 3,4แฟ้ม DRU 
ค่ายาCOVID-DRUG2Hydroxychloroquine (ยกเลิกการเบิก 4/6/2564) ตามจริงไม่เกิน  7,200 บาท
ทั้งนี้ ฟ้าทะลายโจร ไม่เกิน 300 บาท 
 – 2 มีนาคม 25634 มิถุนายน 2564หมวด 3,4แฟ้ม DRU 
ค่ายาCOVID-DRUG3Darunavir ตามจริงไม่เกิน  7,200 บาท
ทั้งนี้ ฟ้าทะลายโจร ไม่เกิน 300 บาท 
 – 2 มีนาคม 2563หมวด 3,4แฟ้ม DRU 
ค่ายาCOVID-DRUG4Favipiravir ตามจริงไม่เกิน  7,200 บาท
ทั้งนี้ ฟ้าทะลายโจร ไม่เกิน 300 บาท 
 – 2 มีนาคม 2563หมวด 3,4แฟ้ม DRU 
ค่ายาCOVID-DRUG5lopinavir + ritonavir ตามจริงไม่เกิน  7,200 บาท
ทั้งนี้ ฟ้าทะลายโจร ไม่เกิน 300 บาท 
 – 2 มีนาคม 2563หมวด 3,4แฟ้ม DRU 
ค่ายาCOVID-DRUG6Oseltamivir ตามจริงไม่เกิน  7,200 บาท
ทั้งนี้ ฟ้าทะลายโจร ไม่เกิน 300 บาท 
 – 2 มีนาคม 2563หมวด 3,4แฟ้ม DRU 
ค่ายาCOVID-DRUG7Remdesivir ตามจริงไม่เกิน  7,200 บาท
ทั้งนี้ ฟ้าทะลายโจร ไม่เกิน 300 บาท 
 – 2 มีนาคม 2563หมวด 3,4แฟ้ม DRU 
ค่ายาCOVID-DRUG8Ritonavir ตามจริงไม่เกิน  7,200 บาท
ทั้งนี้ ฟ้าทะลายโจร ไม่เกิน 300 บาท 
 – 2 มีนาคม 2563หมวด 3,4แฟ้ม DRU 
ค่ายาCOVID-DRUG9Tocilizumab ตามจริงไม่เกิน  7,200 บาท
ทั้งนี้ ฟ้าทะลายโจร ไม่เกิน 300 บาท 
 – 2 มีนาคม 2563หมวด 3,4แฟ้ม DRU 
ค่ายาCOVID-DRUG10Azithromycin (ยกเลิกการเบิก 4/6/2564) ตามจริงไม่เกิน  7,200 บาท
ทั้งนี้ ฟ้าทะลายโจร ไม่เกิน 300 บาท 
 – 2 มีนาคม 25634 มิถุนายน 2564หมวด 3,4แฟ้ม DRU 
ค่ายาCOVID-DRUG11ฟ้าทะลายโจร ตามจริงไม่เกิน  7,200 บาท
ทั้งนี้ ฟ้าทะลายโจร ไม่เกิน 300 บาท 
 – 4 มิถุนายน 2564หมวด 3,4แฟ้ม DRU 
เวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา52320ค่าออกซิเจน (< 8 ชม.)                                             160เป็น Item ที่ให้เบิกตามเงื่อนไขปกติ
28 มิถุนายน 2564 จ่าย ontop DRG กรณี HI CI
28 มิถุนายน 2564หมวด 5แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=11
ค่า Lab36590SARS coronavirus 2, qualitative RT-PCRตามจริงไม่เกินอัตราที่กำหนด ครั้ง ตามจริงไม่เกิน 3,000 บาท (2 มี.ค 63-30 พ.ย. 63)
ตามจริงไม่เกิน 2,200 บาท (1 ธ.ค.63-15 ส.ค. 64)
หมวด 7แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=15
ค่า Lab36591SARS coronavirus 2 N gene, qualitative RT-PCR ครั้ง หมวด 7แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=15
ค่า Lab36592SARS coronavirus 2 RdRp gene, qualitative RT-PCR ครั้ง หมวด 7แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=15
ค่า Lab36599SARS coronavirus 2 ,2 genes (+/-) in Respiratory specimen by NAA with probe detection ตามจริงไม่เกิน 1,500 บาท ครั้ง 16 สิงหาคม 2564หมวด 7แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=15
ค่า Lab36597SARS coronavirus 2 3 genes (+/-) in Respiratory specimen by NAA with probe detection ตามจริงไม่เกิน 1,700 บาท ครั้ง 16 สิงหาคม 2564หมวด 7แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=15
ค่า Lab36593SARS coronavirus 2 IgG Ab [+/-] in Serum or Plasma by Rapid immunoassayตามจริงไม่เกิน 550 บาท ครั้ง 16 สิงหาคม 2564หมวด 7แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=15
ค่า Lab36594SARS coronavirus 2 IgM Ab [+/-] in Serum or Plasma by Rapid immunoassay  ครั้ง  หมวด 7แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=15
ค่า Lab36595SARS coronavirus 2 IgG+IgM Ab [+/-] in Serum or Plasma by Immunoassay  ครั้ง  หมวด 7แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=15
ค่า Lab36596SARS coronavirus 2 Ag [+/-] in Respiratory specimen by Rapid immunoassay  ครั้ง  หมวด 7แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=15
ค่า Lab36598SARS coronavirus 2 Ag (+/-) in Respiratory specimen by Chromatographyตามจริงไม่เกิน 450 บาท ครั้ง 16 สิงหาคม 2564หมวด 7แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=15
ค่า Lab30115Heparin-PF4 antibody (IgG) ELISA assay                                       1,550.00 ครั้ง 2 มิถุนายน 2564หมวด 7แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=15
ค่า Lab30116Heparin induced Platelet activation test (HIPA)                                       1,500.00 ครั้ง 2 มิถุนายน 2564หมวด 7แฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=15
บริการอื่นๆ045001ค่าชุด PPE สำหรับบุคลากรเก็บตัวอย่าง                                         540.00 ครั้ง 2 มีนาคม 256330 พฤศจิกายน 2563หมวด บริการอื่นๆ ไม่จัดหมวดแฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=3
บริการอื่นๆ045002ค่าชุด PPE สำหรับบุคลากรดูแลผู้ป่วย                                         740.00 ชุด 2 มีนาคม 2563หมวด บริการอื่นๆ ไม่จัดหมวดแฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=4
บริการอื่นๆ045004ค่าชุด PPE สำหรับบุคลากรดูแลผู้ป่วยอาการเล็กน้อย                                         300.00 วัน 16 สิงหาคม 2564หมวด บริการอื่นๆ ไม่จัดหมวดแฟ้ม ADP ฟิลด์ TYPE=5
Happy
0 0 %
Sad
1 33 %
Excited
2 67 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

แนวทางกำกับการเบิกจ่ายค่ายา Adalimumab/Infliximab

0 0
Read Time:5 Minute, 45 Second

แนวทางกำกับการเบิกจ่ายค่ายา Adalimumab/Infliximab ข้อบ่งใช้โรค Behcet (Behcet’s disease), Noninfectious necrotizing scleritis,Ocular sarcoidosis และ Vogt Koyanagi Harada (VKH disease)

แพทย์และสถานพยาบาลที่ต้องการใช้ Adalimumab/Infiximab จะต้องมีระบบอนุมัติการเบิกจ่ายค่ายาคุณสมบัติของสถานพยาบาล และคุณสมบัติของแพทย์ผู้ทำการรักษา เป็นไปตามที่กำหนด

  1. การขออนุมัติการเบิกจ่ายค่ายา ให้ขออนุมัติการเบิกจ่ายค่ายา Adalimumab/Infiximab จากระบบ Uveitis (pre-authorization) โดยให้สถานพยาบาลลงทะเบียนแพทย์ ผู้ป่วย และส่งข้อมูลรายละเอียดการรักษาตามโปรโตคอลที่กำหนด ก่อนการขออนุมัติทุกครั้ง โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
    • 1.1 อนุมัติให้เบิกจ่ายค่ายานาน 6 เดือนต่อครั้ง
    • 1.2 เนื่องจากผู้ป่วยอาจตอบสนองหรือไม่ตอบสนองต่อการรักษา หรือมีผลข้างเคียงจากการใช้ยา ดังนั้นหลังการอนุมัติครั้งแรกให้เพทย์ผู้รักษาบันทีกผลของการรักษา ยืนยันประโยชน์ของการรักษาด้วยยาในผู้ป่วยนั้นเพื่อขออนุมัติการเบิกจ่ายในครั้งถัดไป
    • 1.3 การเปลี่ยนยาจาก Inftliximab เป็น Adalimumab หรือในทางกลับกัน สามารถทำได้เมื่อใช้ยาตัวใดตัวหนึ่งแล้วพบว่าไม่มีการตอบสนองที่ 6 เดือน หรือเกิดผลข้างเคียงจากยาอย่างมีนัยสำคัญ หรือมีการเปลี่ยนแปลงรายการยาของโรงพยาบาล โดยต้องทำเรื่องขออนุมัติใหม่
  2. คุณสมบัติของสถานพยาบาลและแพทย์ผู้ทำการรักษา สถานพยาบาลที่มีการใช้ยาต้องเป็นสถานพยาบาลที่มีความพร้อมในการวินิจฉัยและรักษาโรค โดยมีจักษุแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญในนุสาขาจักษุวิทยาภูมิคุ้มกันและการอักเสบที่ได้รับการรับรองโดยราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย และมีแพทย์เฉพาะทางสาขาอื่นที่เกี่ยวข้องที่พร้อมจะดูแลรักษาปัญหาแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดจากโรคและ/หรือการรักษา
  3. เกณฑ์อนุมัติการเบิกจ่ายค่ายา เกณฑ์การอนุมัติการเบิกจ่ายค่ายา Adalimumab/Infiximab ข้อบ่งใช้โรค Behcet (Behcet’s disease),Noninfectious necrotizing scleritis, Ocular sarcoidosis และ Vogt Koyanagi Harada (VKH disease) มีดังนี้
    • 3.1 เกณฑ์การวินิจฉัย
      • 3.1.1 ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Behcet (Behcet’s disease) ตามเกณฑ์ Behcet’s Disease Research Committee: Clinical research section recommendation, Jpn J Ophthalmol 1974, 18:291-4 หรือ International Study Group for Behcet’s Disease: Criteria for Diagnosis of Behcet’s Disease, Lancet 1990, 335:1078-80 หรือ
      • 3.1.2 ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Noninfectious necrotizing scleritis ตามเกณฑ์ Watson and Harreh. Scleritis and Episcleritis. Br J Ophthalmol. 1976;60(3):163-91. หรือ
      • 3.1.3 ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Ocular sarcoidosis ตามเกณฑ์ International Criteria for the Diagnosis of Ocular Sarcoidosis: Result of the First International Workshop on Ocular Sarcoidosis (IWOS). Ocular Immunol Inflamm. 2009;17(3):160-9. หรือ
      • 3.1.4 ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Vogt Koyanagi Harada (VKH disease)ตามเกณฑ์ Revised diagnostic criteria for Vogt Koyanagi Harada disease: Report of an International Committee on Nomenclature. Am J Ophthalmol. 2001;131(5):647-52
    • 3.2 ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยามาตรฐาน ได้แก่ methotrexate (MTX), azathioprine (AZA), mycophenoloate mofetil (MPM), cyclosporine (CSA), cyclophosphamide (CTX) หรือ chlorambucil แบบผสมผสาน (combination therapy) 22 ขนาน และต้องได้รับยาแต่ละตัวในขนาดเป้าหมายมาตรฐาน (standard target dose) ติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน ยกเว้นมีข้อห้ามหรือมีผลข้างเคียงจากการใช้ยาอย่างมี
      นัยสำคัญ
  4. ข้อห้ามของการใช้ยา
    • 4.1 เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้าย (terminally ill! หรือจะไม่ได้รับประโยชน์จากการใช้ยาเมื่อเทียบกับผลข้างเคียงที่จะเกิดจากยา เช่น bed ridden, severe dementia ไม่สามารถสื่อสารเพื่อบอกอาการผลข้างเคียงจากการรักษาหรือประเมินผลการรักษาได้
    • 4.2 ระดับสายตาไม่เห็นแสง (no light perception)
    • 4.3 เคยแพ้ยานี้อย่างรุนแรง หรือแพ้ส่วนประกอบที่เป็น murine protein
    • 4.4 มีการติดเชื้อรวมทั้งการติดเชื้อซ้ำซาก (recurrent) ที่ไม่ได้รับการรักษาหรือควบคุมอย่างเหมาะสม
  5. ขนาดยาที่แนะนำ
    • 5.1 Adalimumab เริ่มต้นที่ 80 มก. ฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนัง แล้วฉีดต่อด้วย 40 มก. ทุก 2 สัปดาห์ หรือ Infliximab 5 มก./กก. หยดเข้าหลอดเลือดดำ เริ่มต้นที่สัปดาห์ที่ 0, 2, 6 และต่อด้วยทุก 8 สัปดาห์ หากการตอบสนองไม่เป็นที่น่าพอใจหลัง 3 เดือน อาจพิจารณาเพิ่มความถี่ของการใช้ยา เป็นทุก 6 สัปดาห์
    • 5.2 การใช้ยาชีววัตถุควรใช้ควบคู่กับยามาตรฐานในขนาดที่ได้อยู่เดิม ยกเว้นมีข้อห้ามหรือมีผลข้างเคียงจากการใช้ยาอย่างมีนัยสำคัญ
  6. การประเมินผลการรักษาเพื่อขอต่ออายุการเบิกจ่ายค่ายา
    • 6.1 ประเมินผลการรักษา และบันทึกในเวชระเบียน อย่างน้อยทุก 3 เดือน
    • 6.2 การตอบสนองต่อการรักษา แบ่งเป็น
      • 6.2.1 ตอบสนองต่อการรักษาอย่างสมบูรณ์ หมายถึง ไม่พบการอักเสบในตา (inactive)
      • 6.2.2 ตอบสนองต่อการรักษาบางส่วน หมายถึง การอักเสบในตาลดลง (improved disease activity) หรือความถี่ในการอักเสบลดลง
      • 6.2.3 ไม่ตอบสนองต่อการรักษา หมายถึง มีการอักเสบในตาเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น หรือความถี่ของการอักเสบเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น
    • 6.3 ในกรณีที่ไม่ตรงตามเกณฑ์ข้างต้น หากมีความจำเป็นต้องใช้ยา ให้ระบุเหตุผลในช่องหมายเหตุ
  7. เกณฑ์การหยุดยา ให้หยุดยาเมื่อมีข้อบ่งซี้ข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้
    • 7.1 ไม่ตอบสนองต่อการรักษาหลังจากใช้ยานาน 6 เดือน
    • 7.2 ระดับการมองเห็นหลังการรักษา 6 เดือนในตาข้างที่ดีที่สุด แย่กว่า finger count at 1 foot
    • 7.3 มีอาการแพ้ยา หรือ เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ยา Adalimumab/Infliximab
    • 7.4 ผู้ป่วยปฏิเสธการใช้ยา
    • 7.5 ย้ายสถานพยาบาล

หมายเหตุ

ขนาดเป้าหมายมาตรฐาน (standard target doses) ของยามาตรฐาน ได้แก่

  • Methotrexate 0.3 มก./กก/สัปดาห์ (ขนาดสูงสุด 25 มก./สัปดาห์)
  • Azathioprine 2-2.5 มก/กก/วัน
  • Cyclosporine 3-5 มก/กก./วัน
  • Mycophenolate mofetil 2-3 กรัม/วัน
  • Cyclophosphamide 2 มถ/กก./วัน
  • Chlorambucil 0.1 มก/กก/วัน

ผู้ป่วยระยะสุดท้าย (terminally ill) หมายถึง ผู้ป่วยโรคทางกายซึ่งไม่สามารถรักษาได้ (incurable) และไม่สามารถช่วยให้ชีวิตยืนยาวขึ้น (ireversible) ซึ่งในความเห็นของแพทย์ผู้รักษา ผู้ป่วยจะเสียชีวิตในระยะเวลาอันสั้น ผู้ป่วยดังกล่าวควรได้รับการรักษาแบบประคับประคอง (palliative care โดยมุ่งหวังให้ลดความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานเป็นสำคัญ

คำจำกัดความ

  • ไม่พบการอักเสบในตา (inactive) หมายถึง การอักเสบระดับ 0 ในช่องหน้าลูกตา (anterior chamber) หรือในน้ำวุ้นตา (vitreous) ตามเกณฑ์ของ The Standardization of Uvettis Nomenclature (SUN) Working Group ไม่พบการอักเสบของขั้วประสาทตา จอประสาทตา คอรอยด์ ไม่มีการรั่วของเนื้อเยื่อจากการประเมินด้วย fuorescein หรือ indocyanine green angiography และไม่พบการบวมของจุดรับภาพชัด (macular edema)
  • การอักเสบในตาลดลง (improved disease activity) หมายถึง ความรุนแรงของการอักเสบในช่องหน้าลูกตาหรือในวุ้นตาลดลง อย่างน้อย 2 ระดับหรือลดลงเป็นระดับ 0 ตามเกณฑ์ของ The Standardization of Uveitis Nomenclature (SUN) Working Group หรือรอยรั่วจากชั้นคอรอยด์หรือจอประสาทตาลดลง จากการประเมินโดยการทำ fluorescein หรือ indocyanine green angiography หรือจุดรับภาพชัดบวมลดลง จากการประเมินด้วยการตรวจร่างกายและภาพถ่ายตัดขวาง Optical coherence tomography (OCT)
Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยภาวะตาอักเสบซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง

0 0
Read Time:2 Minute, 33 Second

อ้างอิงหนังสือกรมบัญชีกลางที่

กค 0416.2/ว681 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2564

ด้วยกรมบัญชีกลางได้ดำเนินการจัดทำระบบเบิกจ่ายตรงสำหรับผู้ป่วยภาวะตาอักเสบจากโรคในกลุ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ ได้แก่ Behcet, Noninfectious necrotizing scleritis, Ocular sarcoidosis และ Vogt Koyanagi Harada (VKH disease) ที่ไม่ตอบสนองหรือตอบสนองไม่เพียงพอต่อการรักษาด้วยยามาตรฐาน และมีความจำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา ลดโอกาสสูญเสียสายตาอย่างถาวร และช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น กรมบัญชีกลางพิจารณาแล้ว ขอเรียนว่า เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาพยาบาลตามความเหมาะสมจำเป็น และปลอดภัย รวมทั้งเพื่อให้การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘ วรรคหนึ่ง (๑) และวรรคสอง แห่งพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม อธิบดีกรมบัญชีกลางโดยได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงเห็นควรดำเนินการ ดังนี้

  1. กำหนดหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้ป่วยภาวะตาอักเสบจากโรค Behcet, Noninfectious necrotizing scleritis, Ocular sarcoidosis และ Vogt Koyanagi Harada (VKH disease) ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยา Adalimurab และ Infliximab โดยให้สถานพยาบาลดำเนินการลงทะเบียนแพทย์ผู้รักษา ผู้ป่วย แล้วส่งข้อมูลตามโปรโตคอลที่กำหนดในระบบ Uveitis ทางเว็บไซต์ https://bialogic.mra.or.th/index.php เพื่อขออนุมัติเบิกจ่ายค่ายาหรือขอต่ออายุการเบิกจ่ายค่ายา หรือขอหยุดการใช้ยา ตามแนวทางปฏิบัติที่สำนักวิจัยเพื่อพัฒนาการตรวจสอบการบริการสาธารณสุข (สพตส.) กำหนด สำหรับการเบิกจ่าย ให้เบิกจ่ายค่ายาในระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น โดยให้เบิกจ่ายได้ไม่เกินอัตราที่กรมบัญชีกลางกำหนดตามหนังสือที่อ้างถึง อีกทั้งการใช้ยาดังกล่าวต้องเป็นไปตามเงื่อนไขข้อบ่งขี้ที่กำหนดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย จึงสามารถเบิกจ่ายจากทางราชการได้
  2. สำหรับยาชีววัตถุและยาสังเคราะห์มุ่งเป้าซึ่งใช้ในการรักษาภาวะตาอักเสบจากโรคในกลุ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติข้างต้น ที่อยู่นอกระบบ Uveitis เช่น Golimumab เป็นต้น จะไม่สามารถเบิกจ่ายได้ อย่างไรก็ตาม กรมบัญชีกลางได้เร่งทยอยพิจารณาการปรับรายการยาที่จำเป็นเข้าระบบ Uveitis ต่อไป
  3. กรณีที่สถานพยาบาลจำเป็นต้องออกใบเสร็จรับเงิน ค่ายาชีววัตถุและยาสังเคราะห์มุ่งเป้าซึ่งใช้ในการรักษาภาวะตาอักเสบจากโรคในกลุ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติข้างต้น ทั้งที่เป็นยาในระบบ Uveitis และนอกระบบ Uveitis ให้แจงรายละเอียดชื่อรายการยา โดยระบุเป็น “ค่ายาที่เบิกไม่ได้” และมิให้ออกใบรับรองในการสั่งใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ เนื่องจากผู้มีสิทธิไม่สามารถนำใบเสร็จรับเงินค่ายาดังกล่าวทุกรูปแบบ ขนาด และความแรง มายื่นเบิกเงินกับส่วนราชการต้นสังกัดได้

ทั้งนั้นให้มีผลใช้บังคับสำหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๔ เป็นต้นไป

แนวทางกำกับการเบิกจ่ายค่ายา Adalimumab และ Infliximab ข้อบ่งใช้โรค Behcet,Noninfectious necrotizing scleritis, Ocular sarcoidosis และ Vogt Koyanagi Harada (VKH disease)

Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

หลักเกณฑ์ HI CI สิทธิข้าราชการ

0 0
Read Time:1 Minute, 16 Second

กรมบัญชีกลางพิจารณาแล้ว ขอเรียนว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโรคโควิด ๑๙ ในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อการให้การรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโรคโควิด ๑๙ ที่สถานพยาบาลของทางราชการหรือสถานที่อื่นที่สถานพยาบาลของทางราชการได้จัดเตรียมไว้เป็นอย่างมาก กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมการแพทย์ จึงได้กำหนดแนวทางการให้การรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโรคโควิด ๑๙ ที่บ้าน (Home Isolation) หรือในสถานที่อื่น ๆ (Community Isolation) ระหว่างรอเข้ารับการรักษาพยาบาลเป็นผู้ป่วยใน ประกอบกับได้มีการเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยภาวะเกล็ดเลือดต่ำที่กระตุ้นการเกิดหลอดเลือดอุดตันจากภูมิคุ้มกันภายหลังได้รับวัคซีน (Vaccine-induced immune thrombotic thrombocytopenia (VT) เพื่อพิจารณาปรับปรุงสิทธิประโยชน์ให้ครอบคลุมการรักษาพยาบาลกรณีดังกล่าว

ดังนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๘ และมาตรา ๑๔ แห่งพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม อธิบดีกรมบัญชีกลางโดยได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงเห็นสมควรกำหนดหลักเกณฑ์ อัตรา วิธีการ และเงื่อนไข การเบิกเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒0๑๙ หรือโรคโควิด ๑๙ (ฉบับที่ ๓) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว รายละเอียดปรากฎตามสิ่งที่ส่งมาด้วย

Happy
0 0 %
Sad
1 100 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

การจัดทำข้อมูล Lab catalog ของหน่วยบริการที่ส่งข้อมูลสิทธิข้าราชการ ผ่าน สปสช.

0 0
Read Time:1 Minute, 32 Second

ตามที่กรมบัญชีกลาง มีนโยบายให้สถานพยาบาลส่งข้อมูลการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นแบบรายละเอียดตามรายการในแต่ละหมวดค่ารักษานั้น กรณีการบันทึกข้อมูลเบิกจ่ายในหมวด 7 การตรวจวินิจฉัยทางเทคนิคการแพทย์และพยาธิวิทยา กำหนดให้สถานพยาบาลจัดทำรายการตรวจทางห้องปฏิบัติการโดยให้ระบุรหัสมาตรฐานการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ไทย (TMLT) ซึ่งการกำหนดรหัสดังกล่าวดำเนินการโดยสำนักพัฒนามาตรฐานระบบข้อมูลสุขภาพไทย (สมสท.)

ในการนี้เพื่อให้การจัดทำบัญชีข้อมูลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และพยาธิวิทยา (Lab catalog) ของสถานพยาบาลมีความครบถ้วนถูกต้องตามมาตรฐานที่กำหนด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)จึงขอแจ้งแนวทางการดำเนินการ ดังนี้

  1. สถานพยาบาลจัดทำบัญชีข้อมูลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และพยาธิวิทยา (Lab catalog) ซึ่งประกอบด้วย รหัส Lab ของโรงพยาบาล,รหัส TMLT, รหัสในหมวด 7 ของกรมบัญชีกลางส่งไปยังสำนักพัฒนามาตรฐานระบบข้อมูลสุขภาพไทย (สมสท.) เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
  2. การส่งข้อมูล Mapping ให้ส่งผ่านโปรแกรม TMLT Mapping ซึ่ง Download ได้ทางเว็บไซต์ สมสท. ทาง =>> https://this.or.th/
  3. เมื่อผลการ Mapping ผ่านการตรวจสอบจาก สมสท. แล้ว จึงนำไฟล์ดังกล่าวส่งผ่านเวบhttps://catalogue.nhso.go.th/labcatalogue/ ของ สปสช.
  4. Lab catalog ที่ผ่านการอนุมัติจาก สปสช. แล้ว สถานพยาบาลดาวโหลดไฟล์ที่ได้รับการอนุมัตินำเข้าโปรแกรม e-claim เพื่อดำเนินการบันทึกข้อมูลการเบิกจ่ายต่อไป

การติดต่อประสานงาน

  • Drug catalog : เมลล์ tmt.nhso@gmail.com / หมายเลขโทรศัพท์ 02-832-9298
  • Lab catalog : เมลล์ tmlt.nhso@gmail.com / หมายเลขโทรศัพท์ 02-832-9295 ,02-832-9299

หมายเหตุ : กรณีบัญชีข้อมูลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และพยาธิวิทยา (Lab catalog) ของสถานพยาบาลที่เคยผ่านการอนุมัติจาก สปสช.แล้ว แต่หากตรวจพบในภายหลังว่ารหัสไม่ถูกต้องตามที่ สมสท.กำหนด ข้อมูลการเบิกจ่ายหลังจากนั้นจะไม่ผ่านการตรวจสอบ ขอให้สถานพยาบาลดำเนินการตามที่แจ้งข้างต้นใหม่อีกครั้ง

Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %
Exit mobile version